[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้คุยกันติดส์...เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผู้เขียน เขียนไว้นานพอควร ตั้งแต่รับปาก คุณนะ ว่าจะเขียน เรื่องสั้น ส่งในเกมส์ ถุงมือนักเขียน
แต่ด้วย ผู้เขียน เกิด อุบัติเหตุนิดหน่อย และมีงาน ประจำ เลยทำให้ไม่มีเวลา ที่จะเขียนต่อจนเสร็จ จนทำให้ ต้องขอถอนตัว
จากการ ส่งงานเขียน ในเกมส์ถุงมือค่ะ
แต่วันนี้ พอมีเวลาว่าง เข้าไปอ่านงานตัวเอง ว่าจะลบทิ้งก็เสียดาย เพราะเขียนมาจนจะจบแล้ว เลยมานั่งต่อ บทสรุปจนจบ
และด้วยความยาวที่เกิน 5, 000 คำ จขกท เลยขอแบ่งทั้งหมด เป็น 3 ตอนนะคะ
ด้วยความที่เป็นคนชอบเขียน แบบ มือสมัครเล่น และชอบอ่าน เลยรู้สึกเสียดายที่เราจะ อ่านคนเดียว
เลยคิดว่า เอามาวาง บนห้องถนนดีกว่า เผื่อจะมีคนชอบอ่าน เหมือนเรา มาอ่าน
และเหมือนเดิม คือ ขอขอบคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ที่ตามอ่านงานเสมอมา ทั้งกลอนและเรื่องสั้น ซึ่งเป็นกำลังใจ
ให้คนเขียนงานทุกคนรู้สึกอบอุ่น
จขกท มิใช่นักเขียนมืออาชีพ หาก มีข้อความใด ภาษาใดที่ใช้ในการเขียน ผิดพลาด ขาดอรรรสใดๆ
ผู้เขียน ขอน้อมรับคำติชม ด้วยความยินดีค่ะ...
จากใจค่ะ
วิชิตวางกล่องครีมปิดสีผมลงบนโต๊ะ หลังจากอ่านฉลากเสร็จสิ้น ขั้นตอนการและวิธีการใช้ ถูกอ่านอย่างละเอียดทุกบรรทัด
เขากำลังชั่งใจว่าครีมปิดผมสีดำที่ซื้อมาวันนี้ จะปิดผมขาวได้หมดไหม เมื่อนึกถึงเสียงแหลมเล็กๆ ของเจ้วาดังขึ้นมาในประโสตหู
“ ลุงชิต ถ้าไปซื้อตามห้างน่ะ มันก็ใช้ได้แป๊ปเดียว ย้อมแป๊ปเดียวเดี๋ยวสีก็หลุด ถ้าใช้ของ มียี่ห้อจากญี่ปุ่น
ที่ร้านของหนู รับรองติดทานานเป็นเดือน “ เสียงเจ้วา เจ้าของร้านเสริมสวยร่างท้วม หน้าปากซอยบ้าน เชียร์ผลิตภัณฑ์ตัวเองสุดฤทธิ์
“ แล้วถ้าให้ย้อมคิดเท่าไหร่ล่ะ " ลุงชิตชายผมขาว ถามออกไป
“ค่าน้ำยาก็ 1500 ค่าย้อมค่าสระ คิด200 รวมเป็น 1700 จ้า “ เสียงเจ้าของร้านตอบมา
อุ้แม่เจ้า!! พันเจ็ด เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยเข้าร้านทำผมเลย นอกจากตัดผมบาร์เบอร์ชาย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อยากย้อมผมหงอก ทั้งที่ปล่อยให้ผมมันหงอกมาก็หลายปีแล้ว ทำเอาลุงชิตถึงกับสะดุ้งในใจ
ราคาขนาดนี้ ขืนให้เจ้วาทำ นังนู๋ดาว มันคงบ่นพ่อสามวันสามคืน
ขนาดโทรศัพท์ เครื่องใหม่ ลุงชิตยังไม่ได้ซื้อให้ตามที่ลูกร้องขอเลย ขืนเอาเงินมาย้อมผม พันเจ็ด ลูกรู้ ลูกคงเสียใจ
ว่าแล้วก็ได้แต่บอกกับฝ่ายนั้นไปว่า
“ เอาไว้ก่อนนะ ตังค์มันไม่พอ” เจ้วาได้แต่พยักหน้า อย่าง เซ็งๆ ที่ลูกค้าปฎิเสธ
กลับมาจากแวะร้าน มินิมาร์ทข้างบ้าน ครีมปิดผมขาว ราคาไม่ถึงร้อย ถูกหิ้วกลับมาด้วย คิดบ่นในใจมาตลอดทาง
เอาว่ะ ปิดหมดไม่หมด หงอกมันจะโผล่ ก็ต้องลองดู เดินหน้ามาเกือบสุดทางแล้ว ไม่ลองก็คงไม่รู้ ราคาก็ไม่แพงขนาดกระเป๋าฉีก
ทางเลือกของคนที่ต้องประหยัดกินประหยัดใช้ มันก็ต้องเสี่ยงทำ
เดินเข้าไปส่องกระจก ในห้อง ผมที่ขาวเป็นหย่อมๆ บอกถึงอายุของชายวัย 50 ต้นๆ ได้เป็นอย่างดี
แม้ใบหน้าจะไม่หยาบกร้าน เหมือนคนใช้แรงงานแต่ก็ไม่หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว จนทำให้สาวๆ ตกตะลึงเป็นแน่ ดีตรงที่หน้าที่การงาน
ที่ไม่ต้องตากแดด ตากฝน แบกหาม ตำแหน่ง เจ้าที่ฝ่ายข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของหน่วยราชการ แม้ระดับซี จะไม่สูงมาก
แต่ความมั่นคงก็ยังพอมี เงินเดือน ข้าราชการ ก็สามารถเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวได้ตามอัตภาพและฐานะ อย่างไม่ลำบากและอายใคร
.........................
วิชิตเป็นพ่อหม้ายเมียตายมาหลายปี ความเหงา ทำให้ต้องหากิจกรรมหรืออะไรทำไปเรื่อย หลายครั้งที่อยากหาเมียใหม่
แม่ใหม่ให้ลูก แต่ก็ไม่เจอคนที่ถูกใจสักที ทั้งๆที่ลูกก็ไฟเขียวให้ตลอดมา นังนู๋ดาวบอกเสมอว่า ถ้าพ่อมีคนรักและดูแลอย่างจริงใจ
นู๋ดาว จะสนับสนุน และยอมรับแม่ใหม่ด้วยความเต็มใจ ทำเอาผู้เป็นพ่อยิ้มแก้มปริ ขยี้หัวลูกสาว ด้วยความรักและเอ็นดู
ยอมรับว่าหลายครั้ง ที่แอบคิดว่า ถ้าคนที่ตัวเองรัก แต่ลูกสาวไม่รัก ต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน มันจะสร้างความน้อยเนื้อต่ำใจ
และความคิดที่ถูกแย่งคนรัก ของลูกไหม ? แต่หลายครั้งที่ลูกยืนยัน แบบนี้ พ่อจึงสบายใจไปเปลาะหนึ่ง
ครึ่งปีที่แล้วนู๋ดาว ลูกสาวเปิดเฟสบุ๊ค ส่วนตัวให้เล่น โดยให้เหตุผลว่า โลกสมัยนี้มันกว้างและไปไกลมาก
บางคนที่ขาดการติดต่อกับเพื่อน หรือญาติ มานาน ก็สามารถใช้เฟสบุ๊ค ติดต่อสื่อสาร หรือตามหาได้
หรือถ้าอยากทราบข่าวสารบ้านเมือง หรืออยากหาเพื่อนใหม่อยากซื้อของ ขายของ ก็ใช้เฟสบุ๊ค เป็นช่องทางสื่อสารได้
นู๋ดาวสอนวิธีเล่นเฟส จนพ่อเล่นเก่งขึ้น นับจากนั้น เมื่อว่างเวลาใด วิชิต จะ เล่นเฟสเป็นงานอดิเรกเลยที่เดียว
เพราะเหมือนย่อโลก ลงเข้ามาในหน้าจอเล็กๆ
วิชิตเอารูปสมัยหนุ่มๆ มาอัพเป็นโปร์ไฟล์ เขารู้สึกว่ารูปนี้ทำให้เขาดูดี และหล่อเหมือน โจวเหวิ่นฟะ หนุ่มๆเหลือเกิน
ยิ่งมองยิ่งภูมิใจ เทคโนโลยี่ของกล้องโทรศัพท์สมัยนี้ ก็สร้างรูปสวย แต่งภาพ ซะจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้
เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับโลกอินเตอร์เนต
หนุ่มใหญ่ตั้งเฟสเป็นพับบลิค( public) สาธารณะ เพราะตัวเขาเองไม่มีความลับใดๆ และไม่มีเพื่อนฝูง ที่ต้องคุยธุรกิจ
การเปิดเป็นสาธารณะ ก็สามารถ ทำให้ คนที่เข้ามาอ่าน เห็นหน้าฟีด(feed) และสามารถ มาอ่านหน้าหลักที่แชร์ข่าวสาร
หรือข้อความความตัวเองได้ และด้วยระบบแท๊ก( tag) จึงทำให้วิชิต มีเพื่อนที่ติดตาม และเข้ามาขอแอด( add) มากมายจนหายเหงา
โลกโซเชียลมันดีอย่างนี้นี่เอง อยู่ที่ไหนครึ่งโลกค่อนโลก ก็รู้ข่าว และมีเพื่อนได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องเดินทาง ยอดกดไลก์
คือความสุข และเหมือนเป็นข้อมูลบันทึกว่า มีใครติดตามเขามั่ง เขาจึงสนุกและมีความสุขกับการได้เขียน ได้อัพเดท รูปภาพ
ข้อความสร้างแรงบันดาใจ และแชร์วิธีการทำเมนูอาหารแปลกๆ ที่เค้าปรุงให้ลูกสาวกิน ในวันทุกๆ วันหยุด
ตลอด 6 เดือน วิชิตสังเกตดูว่ามี คนกดถูกใจให้เขา เพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีคนเก่าๆหายไปบ้าง กลับวนมาบ้าง แต่มีคนๆหนึ่ง
ไม่เคยหายไปเลย ทุกครั้งที่เขาอัพสเตตัส( status) หรือข้อความอะไร รูปอะไร สาวโปร์ไฟล์รูปตุ๊กตาญี่ปุ่น ตามกดให้เขามาตลอด
ไม่ขาดแม้แต่วันเดียว แถมยังแอดมาเป็นเพื่อนอีก
ชายหนุ่มสูงวัย ไม่ลังเล ที่กดยืนยันตอบรับเธอเลย ก็แหง๋ล่ะ ใครจะไม่ดีใจและ ภูมิใจ ที่มี FC ตามให้กำลังใจมานานขนาดนี้
อีกอย่างก็อยากรู้ด้วยว่า สาวโปร์ไฟล์ ตุ๊กตาญี่ปุ่น ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน
เพราะ ชื่อ ฮิเดโกะ ในเฟส น่าจะเป็นนามแฝง ดังนั้นวิธีเดียวที่จะรู้ คือการยืนยันรับเป็นเพื่อน เพื่อที่จะเข้าไปอ่านประวัติ
และดูข้อมูลต่างๆ ที่อยากรู้ เช่นรูปภาพ กิจกรรมที่ทำ หรือครอบครัวว่าโสดหรือแต่งงาน
แต่วิชิต ก็ต้องผิดหวัง เมื่อข้อมูลเหล่านั้น กลับว่างเปล่า ไม่มีวันเดือนปีเกิด ไม่มีสถานที่ทำงาน ไม่มีสิ่งใด ที่จะพาไปสืบเสาะได้เลยว่า
ฮิเดโกะ เป็นใครมาจากไหน เขาจึงได้แต่เฝ้ามอง และติดตาม สาวฮิเดโกะ นี้ต่อไปอย่างเงียบๆ
นานๆที ที่ฮิเดโกะ จะอัพ สถานะ หรือแชร์ อะไร เขายิ่งรู้สึกว่า ทำไมหล่อนจึงต้องปกปิดตัวตน ได้แต่เก็บความสงสัย ไว้ในใจ
จนวันหนึ่งสามเดือนที่ผ่านมา เป็นสามเดือนของจุดเริ่มต้น ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขามาจนบัดนี้
พ่อหม้ายลูกหนึ่ง แชร์ภาพ อาหารที่ทำสุดฝีมือ พร้อมเค้กวันเกิด และของขวัญเพื่อฉลองให้กับลูกสาวคนเดียว และลงวีดีโอ
รูปพ่อลูกสองคนกับการเป่าเค้กที่แสนจะวุ่นวายและมีความสุข เทียนที่พ่อเอามาใช้ปักเค้ก เป็นเทียนเล่นกลที่ไม่สามารถเป่าดับลมได้ง่าย
มันต้องใช้แรงเป่าอย่างมาก จนกว่าจะดับ ทำเอาลูกสาว หัวหมุน และแก้มโย้ กับสิ่งที่พ่อทำมาหลอก
เสียหัวเราะ อย่างมีความสุข เมื่อลูกสาวเปิดกล่องของขวัญออกมา ตู๊กตาหมี ตัวใหญ่ ที่นู๋ดาว อยากได้มานาน คือสิ่งที่พ่อมอบให้
รอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจ พร้อมภาพการกอด ที่ถ่ายทอดความรักสายใย ระหว่างพ่อลูก ถูกถ่ายทอดเป็นวีดีโอ ลงโซเชี่ยล
วันนั้น ยอดกดไล้ก์ เป็นหลักพัน ส่งผ่านมาเข้าเฟส พร้อมคำอวยพร กระหน่ำมาอย่างไม่ขาดสาย ทำเอาวิชิต ทั้งปลื้ม
ทั้งดีใจ ว่าสิ่งที่เค้าทำให้ลูกสาวในวันเกิด มีคนรับรู้และเป็นพยานในความสุข ของสองพ่อลูก อย่างน่าอิจฉา
แต่สิ่งที่ทำให้ เขาประหลาดใจ คือข้อความของฮิเดโกะ นั่นเอง
“ ขอให้คุณพ่อ คุณลูก มีความสุขในวันเกิดมากๆนะคร้า” พร้อม อีโม หัวใจจุ๊ฟๆๆ
ข้อความนั้นทำเอาวิชิต ถึงกับหัวใจพองโต เมื่อเห็นคำทักทาย ครึ่งปี ที่เธอเป็นผู้ติดตาม วันนี้เธอเข้ามาเป็นเพื่อน ทักทาย
ด้วยความสนใจ ทำให้ชายหนุ่ม ต้องรีบตอบกลับ ข้อความของเธอ
“ ขอบคุณมากครับ ยินดีที่ได้คุยกับคุณ ฮิเดโกะ นะครับ “
ตอบไป ก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อย่างน้อยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ความคิดก็ไม่ได้เป็นหมันซะทีเดียว ยังมีสัญญาณตอบรับ
จากโปร์ไฟล์ที่สนใจ ยังไม่ทัน ที่จะคิดมโนไปไกล ข้อความตอบกลับ ของฝั่งนั้น เด้งขึ้นมาอีกแล้ว
“ ยินดีที่ ได้รู้จักค่ะ มีโอกาส คงได้อินบ๊อกซ์ คุยกันนะคะ “ จบด้วยอีโมรูปดอกไม้
เห้ย..แบบนี้ถือว่าสะพานกำลังทอดนี่หว่า ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว กดพิมพ์ตอบส่งอย่างเร็วรี่
“ ครับ ถ้าไงคงได้คุยกันครับ ขอบคุณครับ” กดส่งด้วยหัวใจเต้นเป็นกลองรัวๆ พร้อม อีโม ขอบคุณ
คงไม่ต้องบอกว่าคืนนั้น วิชิตจะเข้านอน อย่างมีความสุขแค่ไหน ทั้งวันเกิดลุกสาว ทั้ง สาวที่สนใจเข้ามาทัก
พรุ่งนี้ มะรืนนี้ มะเรื่องนี้ วันไหนๆ เขาก็จะรอ แม้จะยังไม่เห็นหน้าค่าตา แต่ใจมันวาดฝันไปไกลแล้วว่า
น่าจะมีโอกาส ที่จะทำความรู้จักกันได้ในไม่ช้านี้
....................
ติดตามต่อ ตอน 2 ค่ะ....
ปิดหงอกไปออกเดท : 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิชิตวางกล่องครีมปิดสีผมลงบนโต๊ะ หลังจากอ่านฉลากเสร็จสิ้น ขั้นตอนการและวิธีการใช้ ถูกอ่านอย่างละเอียดทุกบรรทัด
เขากำลังชั่งใจว่าครีมปิดผมสีดำที่ซื้อมาวันนี้ จะปิดผมขาวได้หมดไหม เมื่อนึกถึงเสียงแหลมเล็กๆ ของเจ้วาดังขึ้นมาในประโสตหู
“ ลุงชิต ถ้าไปซื้อตามห้างน่ะ มันก็ใช้ได้แป๊ปเดียว ย้อมแป๊ปเดียวเดี๋ยวสีก็หลุด ถ้าใช้ของ มียี่ห้อจากญี่ปุ่น
ที่ร้านของหนู รับรองติดทานานเป็นเดือน “ เสียงเจ้วา เจ้าของร้านเสริมสวยร่างท้วม หน้าปากซอยบ้าน เชียร์ผลิตภัณฑ์ตัวเองสุดฤทธิ์
“ แล้วถ้าให้ย้อมคิดเท่าไหร่ล่ะ " ลุงชิตชายผมขาว ถามออกไป
“ค่าน้ำยาก็ 1500 ค่าย้อมค่าสระ คิด200 รวมเป็น 1700 จ้า “ เสียงเจ้าของร้านตอบมา
อุ้แม่เจ้า!! พันเจ็ด เกิดมาจากท้องพ่อท้องแม่ ไม่เคยเข้าร้านทำผมเลย นอกจากตัดผมบาร์เบอร์ชาย
ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่อยากย้อมผมหงอก ทั้งที่ปล่อยให้ผมมันหงอกมาก็หลายปีแล้ว ทำเอาลุงชิตถึงกับสะดุ้งในใจ
ราคาขนาดนี้ ขืนให้เจ้วาทำ นังนู๋ดาว มันคงบ่นพ่อสามวันสามคืน
ขนาดโทรศัพท์ เครื่องใหม่ ลุงชิตยังไม่ได้ซื้อให้ตามที่ลูกร้องขอเลย ขืนเอาเงินมาย้อมผม พันเจ็ด ลูกรู้ ลูกคงเสียใจ
ว่าแล้วก็ได้แต่บอกกับฝ่ายนั้นไปว่า
“ เอาไว้ก่อนนะ ตังค์มันไม่พอ” เจ้วาได้แต่พยักหน้า อย่าง เซ็งๆ ที่ลูกค้าปฎิเสธ
กลับมาจากแวะร้าน มินิมาร์ทข้างบ้าน ครีมปิดผมขาว ราคาไม่ถึงร้อย ถูกหิ้วกลับมาด้วย คิดบ่นในใจมาตลอดทาง
เอาว่ะ ปิดหมดไม่หมด หงอกมันจะโผล่ ก็ต้องลองดู เดินหน้ามาเกือบสุดทางแล้ว ไม่ลองก็คงไม่รู้ ราคาก็ไม่แพงขนาดกระเป๋าฉีก
ทางเลือกของคนที่ต้องประหยัดกินประหยัดใช้ มันก็ต้องเสี่ยงทำ
เดินเข้าไปส่องกระจก ในห้อง ผมที่ขาวเป็นหย่อมๆ บอกถึงอายุของชายวัย 50 ต้นๆ ได้เป็นอย่างดี
แม้ใบหน้าจะไม่หยาบกร้าน เหมือนคนใช้แรงงานแต่ก็ไม่หนุ่มฟ้อ หล่อเฟี้ยว จนทำให้สาวๆ ตกตะลึงเป็นแน่ ดีตรงที่หน้าที่การงาน
ที่ไม่ต้องตากแดด ตากฝน แบกหาม ตำแหน่ง เจ้าที่ฝ่ายข้อมูลทะเบียนราษฎร์ ของหน่วยราชการ แม้ระดับซี จะไม่สูงมาก
แต่ความมั่นคงก็ยังพอมี เงินเดือน ข้าราชการ ก็สามารถเลี้ยงดูลูกสาวคนเดียวได้ตามอัตภาพและฐานะ อย่างไม่ลำบากและอายใคร
.........................
วิชิตเป็นพ่อหม้ายเมียตายมาหลายปี ความเหงา ทำให้ต้องหากิจกรรมหรืออะไรทำไปเรื่อย หลายครั้งที่อยากหาเมียใหม่
แม่ใหม่ให้ลูก แต่ก็ไม่เจอคนที่ถูกใจสักที ทั้งๆที่ลูกก็ไฟเขียวให้ตลอดมา นังนู๋ดาวบอกเสมอว่า ถ้าพ่อมีคนรักและดูแลอย่างจริงใจ
นู๋ดาว จะสนับสนุน และยอมรับแม่ใหม่ด้วยความเต็มใจ ทำเอาผู้เป็นพ่อยิ้มแก้มปริ ขยี้หัวลูกสาว ด้วยความรักและเอ็นดู
ยอมรับว่าหลายครั้ง ที่แอบคิดว่า ถ้าคนที่ตัวเองรัก แต่ลูกสาวไม่รัก ต้องมาอยู่ร่วมบ้านเดียวกัน มันจะสร้างความน้อยเนื้อต่ำใจ
และความคิดที่ถูกแย่งคนรัก ของลูกไหม ? แต่หลายครั้งที่ลูกยืนยัน แบบนี้ พ่อจึงสบายใจไปเปลาะหนึ่ง
ครึ่งปีที่แล้วนู๋ดาว ลูกสาวเปิดเฟสบุ๊ค ส่วนตัวให้เล่น โดยให้เหตุผลว่า โลกสมัยนี้มันกว้างและไปไกลมาก
บางคนที่ขาดการติดต่อกับเพื่อน หรือญาติ มานาน ก็สามารถใช้เฟสบุ๊ค ติดต่อสื่อสาร หรือตามหาได้
หรือถ้าอยากทราบข่าวสารบ้านเมือง หรืออยากหาเพื่อนใหม่อยากซื้อของ ขายของ ก็ใช้เฟสบุ๊ค เป็นช่องทางสื่อสารได้
นู๋ดาวสอนวิธีเล่นเฟส จนพ่อเล่นเก่งขึ้น นับจากนั้น เมื่อว่างเวลาใด วิชิต จะ เล่นเฟสเป็นงานอดิเรกเลยที่เดียว
เพราะเหมือนย่อโลก ลงเข้ามาในหน้าจอเล็กๆ
วิชิตเอารูปสมัยหนุ่มๆ มาอัพเป็นโปร์ไฟล์ เขารู้สึกว่ารูปนี้ทำให้เขาดูดี และหล่อเหมือน โจวเหวิ่นฟะ หนุ่มๆเหลือเกิน
ยิ่งมองยิ่งภูมิใจ เทคโนโลยี่ของกล้องโทรศัพท์สมัยนี้ ก็สร้างรูปสวย แต่งภาพ ซะจนจำเค้าโครงเดิมไม่ได้
เขาก็มีความสุขที่ได้อยู่กับโลกอินเตอร์เนต
หนุ่มใหญ่ตั้งเฟสเป็นพับบลิค( public) สาธารณะ เพราะตัวเขาเองไม่มีความลับใดๆ และไม่มีเพื่อนฝูง ที่ต้องคุยธุรกิจ
การเปิดเป็นสาธารณะ ก็สามารถ ทำให้ คนที่เข้ามาอ่าน เห็นหน้าฟีด(feed) และสามารถ มาอ่านหน้าหลักที่แชร์ข่าวสาร
หรือข้อความความตัวเองได้ และด้วยระบบแท๊ก( tag) จึงทำให้วิชิต มีเพื่อนที่ติดตาม และเข้ามาขอแอด( add) มากมายจนหายเหงา
โลกโซเชียลมันดีอย่างนี้นี่เอง อยู่ที่ไหนครึ่งโลกค่อนโลก ก็รู้ข่าว และมีเพื่อนได้ไม่ยาก โดยไม่ต้องเดินทาง ยอดกดไลก์
คือความสุข และเหมือนเป็นข้อมูลบันทึกว่า มีใครติดตามเขามั่ง เขาจึงสนุกและมีความสุขกับการได้เขียน ได้อัพเดท รูปภาพ
ข้อความสร้างแรงบันดาใจ และแชร์วิธีการทำเมนูอาหารแปลกๆ ที่เค้าปรุงให้ลูกสาวกิน ในวันทุกๆ วันหยุด
ตลอด 6 เดือน วิชิตสังเกตดูว่ามี คนกดถูกใจให้เขา เพิ่มขึ้น แต่ก็จะมีคนเก่าๆหายไปบ้าง กลับวนมาบ้าง แต่มีคนๆหนึ่ง
ไม่เคยหายไปเลย ทุกครั้งที่เขาอัพสเตตัส( status) หรือข้อความอะไร รูปอะไร สาวโปร์ไฟล์รูปตุ๊กตาญี่ปุ่น ตามกดให้เขามาตลอด
ไม่ขาดแม้แต่วันเดียว แถมยังแอดมาเป็นเพื่อนอีก
ชายหนุ่มสูงวัย ไม่ลังเล ที่กดยืนยันตอบรับเธอเลย ก็แหง๋ล่ะ ใครจะไม่ดีใจและ ภูมิใจ ที่มี FC ตามให้กำลังใจมานานขนาดนี้
อีกอย่างก็อยากรู้ด้วยว่า สาวโปร์ไฟล์ ตุ๊กตาญี่ปุ่น ชื่ออะไร ทำงานที่ไหน
เพราะ ชื่อ ฮิเดโกะ ในเฟส น่าจะเป็นนามแฝง ดังนั้นวิธีเดียวที่จะรู้ คือการยืนยันรับเป็นเพื่อน เพื่อที่จะเข้าไปอ่านประวัติ
และดูข้อมูลต่างๆ ที่อยากรู้ เช่นรูปภาพ กิจกรรมที่ทำ หรือครอบครัวว่าโสดหรือแต่งงาน
แต่วิชิต ก็ต้องผิดหวัง เมื่อข้อมูลเหล่านั้น กลับว่างเปล่า ไม่มีวันเดือนปีเกิด ไม่มีสถานที่ทำงาน ไม่มีสิ่งใด ที่จะพาไปสืบเสาะได้เลยว่า
ฮิเดโกะ เป็นใครมาจากไหน เขาจึงได้แต่เฝ้ามอง และติดตาม สาวฮิเดโกะ นี้ต่อไปอย่างเงียบๆ
นานๆที ที่ฮิเดโกะ จะอัพ สถานะ หรือแชร์ อะไร เขายิ่งรู้สึกว่า ทำไมหล่อนจึงต้องปกปิดตัวตน ได้แต่เก็บความสงสัย ไว้ในใจ
จนวันหนึ่งสามเดือนที่ผ่านมา เป็นสามเดือนของจุดเริ่มต้น ที่เปลี่ยนแปลงชีวิตเขามาจนบัดนี้
พ่อหม้ายลูกหนึ่ง แชร์ภาพ อาหารที่ทำสุดฝีมือ พร้อมเค้กวันเกิด และของขวัญเพื่อฉลองให้กับลูกสาวคนเดียว และลงวีดีโอ
รูปพ่อลูกสองคนกับการเป่าเค้กที่แสนจะวุ่นวายและมีความสุข เทียนที่พ่อเอามาใช้ปักเค้ก เป็นเทียนเล่นกลที่ไม่สามารถเป่าดับลมได้ง่าย
มันต้องใช้แรงเป่าอย่างมาก จนกว่าจะดับ ทำเอาลูกสาว หัวหมุน และแก้มโย้ กับสิ่งที่พ่อทำมาหลอก
เสียหัวเราะ อย่างมีความสุข เมื่อลูกสาวเปิดกล่องของขวัญออกมา ตู๊กตาหมี ตัวใหญ่ ที่นู๋ดาว อยากได้มานาน คือสิ่งที่พ่อมอบให้
รอยยิ้มและน้ำตาแห่งความดีใจ พร้อมภาพการกอด ที่ถ่ายทอดความรักสายใย ระหว่างพ่อลูก ถูกถ่ายทอดเป็นวีดีโอ ลงโซเชี่ยล
วันนั้น ยอดกดไล้ก์ เป็นหลักพัน ส่งผ่านมาเข้าเฟส พร้อมคำอวยพร กระหน่ำมาอย่างไม่ขาดสาย ทำเอาวิชิต ทั้งปลื้ม
ทั้งดีใจ ว่าสิ่งที่เค้าทำให้ลูกสาวในวันเกิด มีคนรับรู้และเป็นพยานในความสุข ของสองพ่อลูก อย่างน่าอิจฉา
แต่สิ่งที่ทำให้ เขาประหลาดใจ คือข้อความของฮิเดโกะ นั่นเอง
“ ขอให้คุณพ่อ คุณลูก มีความสุขในวันเกิดมากๆนะคร้า” พร้อม อีโม หัวใจจุ๊ฟๆๆ
ข้อความนั้นทำเอาวิชิต ถึงกับหัวใจพองโต เมื่อเห็นคำทักทาย ครึ่งปี ที่เธอเป็นผู้ติดตาม วันนี้เธอเข้ามาเป็นเพื่อน ทักทาย
ด้วยความสนใจ ทำให้ชายหนุ่ม ต้องรีบตอบกลับ ข้อความของเธอ
“ ขอบคุณมากครับ ยินดีที่ได้คุยกับคุณ ฮิเดโกะ นะครับ “
ตอบไป ก็นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ อย่างน้อยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ความคิดก็ไม่ได้เป็นหมันซะทีเดียว ยังมีสัญญาณตอบรับ
จากโปร์ไฟล์ที่สนใจ ยังไม่ทัน ที่จะคิดมโนไปไกล ข้อความตอบกลับ ของฝั่งนั้น เด้งขึ้นมาอีกแล้ว
“ ยินดีที่ ได้รู้จักค่ะ มีโอกาส คงได้อินบ๊อกซ์ คุยกันนะคะ “ จบด้วยอีโมรูปดอกไม้
เห้ย..แบบนี้ถือว่าสะพานกำลังทอดนี่หว่า ไม่ต้องคิดอะไรแล้ว กดพิมพ์ตอบส่งอย่างเร็วรี่
“ ครับ ถ้าไงคงได้คุยกันครับ ขอบคุณครับ” กดส่งด้วยหัวใจเต้นเป็นกลองรัวๆ พร้อม อีโม ขอบคุณ
คงไม่ต้องบอกว่าคืนนั้น วิชิตจะเข้านอน อย่างมีความสุขแค่ไหน ทั้งวันเกิดลุกสาว ทั้ง สาวที่สนใจเข้ามาทัก
พรุ่งนี้ มะรืนนี้ มะเรื่องนี้ วันไหนๆ เขาก็จะรอ แม้จะยังไม่เห็นหน้าค่าตา แต่ใจมันวาดฝันไปไกลแล้วว่า
น่าจะมีโอกาส ที่จะทำความรู้จักกันได้ในไม่ช้านี้
....................
ติดตามต่อ ตอน 2 ค่ะ....